รายงานความยินยอมในการจับกุมผู้นำฝ่ายค้านต่อสภา
ญัตติขอความยินยอมจากรัฐสภาต่อการจับกุมผู้นำฝ่ายค้าน ลี แจ-มยอง ถูกรายงานในสภาแห่งชาติเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนการลงมติในญัตติในสัปดาห์หน้า
ลี ประธานพรรคประชาธิปไตยแห่งเกาหลี (Democratic Party of Korea – DPK) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก เผชิญกับข้อหาคอร์รัปชั่นและติดสินบนที่เกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาและการบริจาคเงินให้กับสโมสรฟุตบอลเทศบาล ย้อนหลังไปถึงสมัยที่เขาดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองซองนัม ทางตอนใต้ของกรุงโซล ตั้งแต่ปี 2010- 2561. เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อัยการขอหมายศาลเพื่อจับกุมเขา นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งแรกที่ต่อต้านผู้นำพรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ กระทรวงยุติธรรมได้ขอความยินยอมจากรัฐสภาในการจับกุมเขาตามที่กฎหมายกำหนดให้ควบคุมตัวสมาชิกสภานิติบัญญัติในขณะที่รัฐสภากำลังอยู่ในช่วงเซสชั่น
ความยินยอมดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อจับกุมฝ่ายนิติบัญญัติในขณะที่สภายังอยู่ในช่วงเซสชั่น
สมัชชามีกำหนดจะยื่นญัตติโดยไม่เปิดเผยชื่อในวันจันทร์นี้ ภายใต้กฎหมายที่กำหนดว่าญัตติดังกล่าวจะต้องลงมติภายใน 72 ชั่วโมง แต่หลังจาก 24 ชั่วโมงผ่านไป ลีปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดว่าเป็นการสร้างขึ้นมา โดยอ้างว่าไม่มีหลักฐานว่าเขาได้รับเงินผิดกฎหมาย พัค ฮง-กึน ผู้นำชั้น DPK ประณามการเคลื่อนไหวอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ โดยเรียกการกระทำดังกล่าวว่ามีแรงจูงใจทางการเมืองว่า “จะถูกบันทึกอย่างอัปยศในประวัติศาสตร์ว่าเป็นเผด็จการ” เนื่องจาก DPK ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา โดยควบคุมที่นั่งได้ 169 ที่นั่งจากทั้งหมด 299 ที่นั่ง คำขอดังกล่าวไม่น่าจะผ่านรัฐสภา
พรรคพลังประชาชน (พปชร.) เรียกร้องให้ ลี สละสิทธิ์การคุ้มกันจากการถูกจับกุมและไปขึ้นศาลพิจารณาคดีตามหมายจับ นอกจากนี้ยังวิพากษ์วิจารณ์ DP ที่เปิดการประชุมรัฐสภาชั่วคราวเพื่อปกป้องผู้นำจากการถูกจับกุม
“ประธานลีกล่าวว่าไม่มีหลักฐาน และเขามั่นใจ จากนั้นเขาควรได้รับการตัดสินนั้นต่อหน้าผู้พิพากษา” ตัวแทนพรรคพลังประชาชนพีพีพี จู โฮ-ยัง กล่าว หากอัยการไม่ได้รับความยินยอมจากรัฐสภาในการจับกุมลี คำขอหมายจับของพวกเขาจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ ในกรณีดังกล่าว อัยการคาดว่าจะฟ้องผู้นำฝ่ายค้านโดยไม่มีการควบคุมตัว
ในการปราศรัยในรัฐสภา ตัวแทนลี อึน-จู หัวหน้าพรรคยุติธรรมฝ่ายค้านรอง เรียกร้องให้ลีสละสิทธิ์คุ้มกันตามที่เขาสัญญาระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ travelwithmea.com
